หากพูดถึงญี่ปุ่นในช่วงเวลานี้หลายคนอาจจะไปนึกถึงความเจริญก้าวหน้าด้านวิวัฒนาการของเทคโนโลยี เนื่องจากพวกเขานั้นสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศพัฒนาจนกลายเป็นประเทศที่เจริญแล้วไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ หรือแม้แต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีก็ตาม แต่สิ่งที่ทำให้ญี่ปุ่นมีเสน่ห์อย่างแท้จริงนั้นก็คือวัฒนธรรมเก่าแก่ดั้งเดิมของพวกเขา

Cr.th.wikipedia.org
และสิ่งที่เปรียบเสมือนกับตัวแทนด้านประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นก็คงจะหนีไม่พ้นปราสาทฮิเมจิ ปราสาทโบราณที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นยุคเก่าภายใต้ฉากหลังของต้นซากุระ งดงามจนทำให้หลายคนต้องตกตะลึง หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับปราสาทแห่งนี้ให้มากขึ้นกัน
– ทำความรู้จักกับปราสาทฮิเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในญี่ปุ่น

Cr.whenorwhere.com
หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้เราได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโบราณของญี่ปุ่นก็คงจะหนีไม่พ้นปราสาท และปราสาทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นก็คือปราสาทฮิเมจินั่นเอง ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ นับว่าเป็น 1 ใน 3 ของปราสาทที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่และมีความงดงามมากที่สุดในญี่ปุ่น ทำให้มันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในด้านวัฒนธรรม เป็นการสร้างอาคารที่ผสมผสานกันระหว่างความคิดสร้างสรรค์และความรู้ด้านสถาปัตยกรรมให้ออกมามีความสวยงามและลงตัว
ไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นตัวแทนที่ทำให้เราได้เห็นถึงความก้าวหน้าทางด้านวิศวกรรมในยุคโบราณของญี่ปุ่นอีกด้วย ปราสาทแห่งนี้มีอายุยาวนานกว่า 400 ปี ความโดดเด่นคือเป็นอาคารสีขาวบริสุทธิ์ทั้งหลังสมกับชื่อเล่นที่ผู้คนมักนิยมเรียกกันว่าปราสาทนกกระยางขาว นอกจากจะดูยิ่งใหญ่หรูหราแล้วยังมีความอ่อนช้อยและสง่างามในเวลาเดียวกัน โครงสร้างภายในนั้นเดิมทีได้รับการออกแบบเพื่อเป็นป้อมปราการที่ข้าศึกไม่สามารถมีวันพิชิตได้ และยังขึ้นชื่อว่าเป็นปราสาทที่แผลอาณาเขตกว้างขวางมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง
หากต้องการท่องเที่ยวยังปราสาทแห่งนี้ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดก็คือช่วงฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากรอบปราสาทนั้นจะถูกรายล้อมไปด้วยต้นซากุระที่กำลังออกดอกสีชมพูจนกลายเป็นจุดถ่ายรูปเดิมนิยมของนักเดินทางทั่วทั้งโลก
– รายละเอียดที่ควรรู้หากต้องการท่องเที่ยวอย่างปราสาทฮิเมจิ

Cr.fun-japan.jp
ปราสาทฮิเมจินั้นเปิดให้บริการเข้าชมทุกวันตั้งแต่ 9:00 น.ถึง 17:00 น. แต่ประตูจะปิดตั้งแต่เวลา 16:00 น. ส่วนในช่วงฤดูร้อนตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมจะเลือกเวลาปิดออกไป 1 ชั่วโมง หากต้องการเข้าชมภายในตัวอาคารรวมไปถึงพื้นที่รอบข้างสำหรับคนที่มีอายุเกิน 18 ปีขึ้นไปจะต้องเสียค่าบริการ 1,000 เยน ราคาสำหรับนักเรียนอยู่ที่คนละ 300 เยน การเดินทางนั้นให้ขึ้นรถบัสจากสถานี SANYO HIMEJI STATION มาลงที่ป้าย OTEMON-MAE จากนั้นเดินมาเพียงเล็กน้อยประมาณ 5 นาทีก็จะถึงปราสาทแล้ว
#สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ #ท่องเที่ยวต่างประเทศ #ทริคการเดินทาง #เที่ยวต่างประเทศงบน้อย #เที่ยวประเทศญี่ปุ่น #ปราสาทฮิเมจิ