Quinta da Regaleira เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ในเมือง ซิงตรา (Sintra) ประเทศโปตุเกส เมืองแห่งนี้มีพื้นที่ 319.23 ตารางกิโลเมตร มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 377,835 คน ภายในเมืองมีอาคารและสิ่งก่อสร้างต่างๆ หลากหลายรูปแบบ ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุคโบราณเป็นศิลปะแบบจินตนิยม มีความสวยงามอลังการและดูลึกลับไปพร้อมๆ กัน
จนทางยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.1995 และที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของประเทศโปรตุเกสอีกด้วย ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก แต่สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในเมืองเราจะไว้พูดถึงกันในโอกาสหน้า คราวนี้เรามาชมปราสาท Quinta da Regaleira กันก่อนดีกว่า

ภาพจาก serradesintra.net
– ประวัติความเป็นมา
เริ่มต้นเดิมที่ปราสาทแห่งนี้เป็นของ Viscondessa da Regaleira แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1904 ถูกขายให้กับมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยมีนามว่า Antonio Augusto Carvalho Monteiro และเขายังเป็นผู้ที่มีมีความรู้หลากหลายแขนง อาทิเช่น นักเล่นแร่แปรธาตุ นักพฤกษศาสตร์ นักกีฏวิทยา และยังเป็นสมาชิกองค์กรฟรีเมสัน (Freemason) อีกด้วย
และหลังจากได้เข้าครอบครองปราสาทเขาได้ว่าจ้าง Luigi Manini สถาปนิกชื่อดังในการออกแบบส่วนต่างๆ ของปราสาท ตามจินตนาการ และความเชื่อในลัทธิของเขา ซึ่งผลงานที่ออกมาจะเป็นการผสมผสานของศิลปะหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Roman, Renaissance, Neo-Manueline และ Gothic ทำให้ที่นี่มีความสวยงามแปลกตา และยังดูลึกลับน่าค้นหา อย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้
– สถานที่น่าสนใจใน Quinta da Regaleira
มาดูกันต่อว่าในปราสาทแห่งนี้มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง เริ่มจากที่แรกกันก่อนเลย
1. The Palace
เป็นอาคารขนาด 5 ชั้น ออกแบบตามสไตล์ Gothic และ Neo-Manueline ที่ผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว ภายในมีห้อง Hunting Room ไฮไลท์สำคัญของห้องนี้ก็คือ เตาผิงขนาดใหญ่ที่สลักเสลาไว้อย่างงดงาม
2. The Chapel
โบสถ์ขนาดเล็ก ออกแบบตามสไตล์ Neo-Manueline เป็นอาคารสีขาว ที่ภายในออกแบบตกแต่งไว้อย่างสวยงาม

ภาพจาก pixels.com
3. The Initiation Well
อีกหนึ่งจุดน่าสนใจก็คือบ่อน้ำแห่งนี้ ว่ากันว่าเป็นบ่อที่ไม่เคยมีน้ำใส่ลงไปจริงๆ การสร้างจะเป็นลักษณะบันไดวนลงไปยังด้านล่างที่มีถึง 9 ชั้น บ่อน้ำแห่งนี้มีความลึกประมาณ 27 เมตร มองจากด้านบนสวยงามแปลกตาเป็นอย่างมาก แต่หากลงไปด้านล่างเงยหน้าขึ้นมาลักษณะภาพที่เห็นจะไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก บริเวณก้นบ่อมีการปูกระเบื้องและวาดรูปเข็มทิศทับไว้บนสัญลักษณ์ไม้กางเขนของอัศวิน
ซึ่งเข็มทิศมีชื่อเรียกว่า Rose of the wind สำหรับบ่อน้ำแห่งนี้ยังสื่อถึงบทประพันธุ์บทหนึ่งของ Dante ที่กล่าวเอาไว้ว่า “The nine circles of Hell, the nine sections of Purgatory and the nine skies which constitute Paradise” อีกด้วย
ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่งในปราสาทแห่งนี้ ท่านใดมีโอกาสเดินทางไปยังโปตุเกสบอกเลยต้องห้ามพลาด และถ้าต้องการทราบพิกัดของปราสาทแห่งนี้กดที่ลิ้งค์กันได้เลยนะคะ >> https://goo.gl/maps/3EirRAuhuyh3ULMo7
#เที่ยวญี่ปุ่น #เที่ยวไต้หวัน #ท่องเที่ยวต่างประเทศ #ทริคการเดินทาง #เที่ยวประเทศโปตุเกส #เที่ยวปราสาทQuintadaRegaleira