มีเคยเป็นไหมคะ ไปเที่ยวประเทศไหนก็จะโดนการฝากซื้อของ ฝากดูนั่น ฝากดูนี่ ตอนแรกๆ เราก็อาจจะรับฝากด้วยความเกรงใจ แต่เอ๊ะ ใครต้องเกรงใจใครนะ
แต่บางที การที่เราไปเที่ยวละมากังวล ว่าจะซื้อของได้ไหม ซื้อครบไหมนะ จะพาให้ทริปเราทั้งทริปไม่สนุกไปเลย วันนี้เราจึงมีวิธีที่จะปฏิเสธ อย่างนุ่มนวล และเนียนที่สุด มาฝากกัน
1.ถ้าเราเจอเราจะซื้อมาให้นะ
อันนี้ก็เรียกว่าเนียนสุด เพราะใครจะไปรู้ว่าเราเดินเจอไหม หรือเราไปเที่ยวโซนไหน ร้านที่แกเคยจำได้ว่ามาเปิดตรงนี้ ตอนฉันไป มันอาจจะไปเปิดอีกที่แล้วก็ได้ป่ะ อ่ะ เนียน ไม่มีใครโกรธแน่

2.เงินไม่พออะแก
อันนี้ในกรณีที่เราอยู่ที่ต่างประเทศแล้ว แล้วถ้าเกิดว่ามาฝากตอนนั้น บอกได้เลยค่ะ ว่าเงินไม่พอ แลกมาเท่านี้อะไรก็ว่าไป เพราะการมาเที่ยว เราต้องแลกเงินมาพอดี และแพลนการเดินทางมาพอสมควรแล้ว
แต่ถ้าจะเอา ดึงดัน และของนั้นไม่ลำบากมากจนเกินไป ให้บอกไปว่า โอนเงินมาให้เกินค่าชาร์จบัตรเครดิจด้วย เพราะการที่เอาบัตรไปรูดที่ต่างประเทศ มันมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแล้ว เผลอๆ รวมเงินกันมา แพงกว่าราคาในไทยนะจ้ะ
3.กระเป๋าเต็ม น้ำหนักกระเป๋าเกิน

อันนี้คนฝากเองก็ต้องเข้าใจนะ ไม่มีทางโกรธได้เลย เพราะถ้าเขาเคยไปเที่ยวต่างประเทศจะรู้เลยว่าการที่น้ำหนักกระเป๋าเกินเนี้ย มันเสียค่าปรับเยอะนะเธอ ยกตัวอย่างสายการบิน Air Asia X ที่เดินทางกลับจากญี่ปุ่น ถ้าเกิน 5 กิโล โดนปรับกันไปจ้ะ 10,000 เยนเกือบสามพันบาทนะคะ
และยังมีความเข้มงวดมากกกก ในการชั่งน้ำหนักกระเป๋า ชั่งไปยันกระเป๋าถือขึ้นเครื่องว่าเกิน 7 กิโลไหม ฉะนั้น เรื่องพวกนี้ควรเช็คและตรวจสอบให้ดีเลยค่า
บางคนฝากรองเท้า กระเป๋า ซึ่งน้ำหนักขั้นต่ำที่ฝากกันก็ประมานเกือบ1กิโลเข้าไปแล้ว รับรองไม่คุ้มเลยถ้าจะโดนเรื่องน้ำหนักเพราะเกรงใจคนที่ฝาก
4.หาร้านไม่เจอเลยอ่ะ
เหตุผลนี้ง่ายสุด เนียนสุด เพราะต่างบ้านต่างเมือง เราก็เป็นแค่นักท่องเที่ยวนะ จะไปคุ้นเคยสถานที่ได้อย่างไร คนฝากก็ต้องเข้าใจ และถนอมน้ำใจกันสุดๆ เลยล่ะ
สมัยนี้มีร้านพรีออเดอร์มากมาย และสินค้าถ้าเทียบราคาแล้วก็ไม่ต่างจากไทยมากนัก ทุกคนที่จะไปเที่ยวก็ลองใช้เทคนิคเหล่านี้ดูนะคะ จะได้เที่ยวอย่างสบายใจ ไม่ต้องเดินซื้อของฝากใครด้วยจ้า
#ฝากซื้อของ #พรีออเดอร์ #เที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง